noom

กล้องวงจรปิด 2 ล้านพิกเซล ราคาคุ้มค่า มาพร้อมความคมชัดระดับ Full HD ช่วยเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทั้งกลางวันและกลางคืน เพิ่มความมั่นใจในทุกมุมมอง การมีระบบรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ จึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกครัวเรือนและทุกองค์กรควรให้ความสำคัญ หลายคนมักกังวลเกี่ยวกับ ราคากล้องวงจรปิด ที่อาจสูงเกินไป หรือกังวลว่าเมื่อติดตั้งแล้วคุณภาพไม่ดี ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ HIP มุ่งแก้ไขมาโดยตลอด ด้วยการพัฒนา กล้องวงจรปิด HIP ที่ทั้งมีคุณภาพสูงและราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในบ้าน สำนักงาน ร้านค้า โรงงาน หรือแม้แต่สถานที่ราชการ กล้องวงจรปิด 2 ล้านพิกเซล CMU1252 ที่ตอบโจทย์ทั้งบ้านและธุรกิจ ที่ให้ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน โครงสร้างแข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ จึงเหมาะกับการติดตั้งทั้งภายในและภายนอกอาคาร อีกทั้งยังรองรับการบันทึกและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายโดยการเชื่อมต่อกับ แอป iConnect ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของบ้านหรือธุรกิจได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน สะดวกสบายและมั่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้สะดวกยิ่งขึ้น กล้องวงจรปิด CMU1252 จึงเป็นทางเลือกที่ คุ้มค่า เพราะไม่ต้องลงทุนสูง แต่ได้ประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์จริง กล้องวงจรปิด HIP ตอบโจทย์ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน

บ้านปลอดภัย ธุรกิจมั่นใจ ด้วย กล้องวงจรปิด HIP สร้างความมั่นใจให้กับคนในครอบครัวและเจ้าของธุรกิจ ในฐานะแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยได้นำเสนอ กล้องวงจรปิด (CCTV) คุณภาพสูง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ และแอปพลิเคชัน HIPiConnect ที่ช่วยให้คุณตรวจสอบความปลอดภัยได้ทุกที่ทุกเวลา HIPIconnect แอปเดียวครบ จบทุกการควบคุม ให้คุณควบคุมและตรวจสอบกล้องได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่านสมาร์ตโฟน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถดูภาพสดแบบเรียลไทม์ รับการแจ้งเตือนทันทีที่มีการเคลื่อนไหว และจัดการการตั้งค่ากล้องได้ในไม่กี่ขั้นตอน ขั้นตอนการติดตั้งแอป HIP iconnect เพื่อให้ใช้งานกล้อง HIP ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณสามารถติดตั้งแอป HIP iConnect ได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้ ดาวน์โหลดแอป ไปที่ Google Play Store หรือ App Store แล้วค้นหา HIP iConnect กดติดตั้งและรอให้ดาวน์โหลดเสร็จ เปิดแอปและสมัครสมาชิก เปิดแอปครั้งแรก ระบบจะให้คุณลงทะเบียนด้วยอีเมลและตั้งรหัสผ่าน หรือหากมีบัญชีอยู่แล้วสามารถล็อกอินได้ทันที เพิ่มอุปกรณ์ กดปุ่ม

ระบบไม้กั้นรถยนต์ HIP ขึ้นชื่อในด้านความแข็งแรง ทนทาน และตอบโจทย์การใช้งานระยะยาว โดยมีฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการลานจอดรถในอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่หน่วยงานราชการต่าง ๆ ระบบไม้กั้น HIP ไม่ได้เป็นเพียง "ไม้กั้น” ธรรมดา แต่ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง LPR (License Plate Recognition) และซอฟต์แวร์อัจฉริยะ HIPezLPR ที่ช่วยให้การบริหารจัดการการเข้าออกของรถยนต์เป็นเรื่องง่าย สะดวก และลดภาระงานของผู้ดูแลได้อย่างมาก ระบบอ่านป้ายทะเบียน LPR เทคโนโลยีนี้ใช้กล้อง AI ที่สามารถตรวจจับและบันทึกหมายเลขทะเบียนได้แม่นยำทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้ LPR Camera CMH88 Plus ที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล (5MP) ช่วยให้การอ่านป้ายทะเบียนคมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย รองรับการอ่านจังหวัดในประเทศไทยได้ครบถ้วน ทำให้การจัดการลานจอดรถมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น การติดตั้ง ระบบ LPR เพียงอย่างเดียวอาจทำให้หลายองค์กรกังวลว่า ข้อมูลที่ได้จะจัดการอย่างไร

ระบบบริหารจัดการ HIP Smart Community ก้าวข้ามการจัดการชุมชนแบบเดิม ด้วยระบบที่รวมทุกความต้องการไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การดูแลความปลอดภัย การสื่อสาร ไปจนถึงการบริหารจัดการที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เสริมด้วย ระบบไม้กั้นรถยนต์ LPR (License Plate Recognition) ที่ตรวจจับป้ายทะเบียนได้อย่างแม่นยำ เปิด–ปิดรวดเร็ว ลดความยุ่งยากในการใช้บัตรหรือรีโมต และป้องกันบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ทั้ง “ปลอดภัย สะดวก และทันสมัย” อย่างแท้จริง เมนูสำหรับผู้พักอาศัยให้สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการรวมฟีเจอร์สำคัญไว้ครบในแอปเดียว ทั้งการจัดการผู้มาติดต่อที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย การสแกน QR Code แทนบัตรหรือคีย์การ์ด การเปิดประตูผ่านสมาร์ทโฟนเพียงปลายนิ้วสัมผัส รวมถึงการตรวจสอบประวัติผู้มาติดต่อย้อนหลังเพื่อความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีระบบร้องเรียนออนไลน์ส่งตรงถึงนิติบุคคล และปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที ทุกฟีเจอร์สะท้อนความใส่ใจทั้งด้าน “ความปลอดภัย” และ “ความสะดวก” ที่ทำให้การใช้ชีวิตในโครงการง่ายขึ้นกว่าที่เคยอย่างแท้จริง. เมนูผู้มาติดต่อ ช่วยยกระดับการจัดการบุคคลภายนอกให้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการบันทึกการเข้า–ออก อย่างเป็นระบบ ตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกขั้นตอน พร้อมฟีเจอร์เรียกแท็กซี่ผ่านแอปที่เพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการเดินทาง อีกทั้งยังมีเมนูส่งของที่ช่วยจัดระเบียบการนำส่งพัสดุ ลดความเสี่ยงของหายหรือผิดพลาด ทำให้ผู้พักอาศัยมั่นใจได้ว่าทุกการเข้ามาของผู้มาติดต่อถูกควบคุมอย่างปลอดภัยและทันสมัยในที่เดียว. เมนู รปภ. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เป็นระบบและตรวจสอบได้จริง เริ่มตั้งแต่การตรวจจุด/สแกนจุดตรวจเพื่อยืนยันการปฏิบัติงาน การตรวจนอกกรอบที่ช่วยขยายความครอบคลุม

การเลือกใช้ MF Card และ ID Card ให้เหมาะกับสถานที่ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบควบคุมการเข้าออกทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดย ID Card เหมาะกับสถานที่ทั่วไปที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เช่น โรงงาน ออฟฟิศ หรือโกดัง ล้วนต้องการโซลูชันที่ช่วยรักษาความปลอดภัยและจัดการสิทธิ์บุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอุปกรณ์ที่นิยมที่สุดคือ เครื่องทาบบัตร (Access Control) ซึ่งต้องทำงานคู่กับบัตรประเภทต่าง ๆ เช่น ID Card และ MF card (13.56MHz) เพื่อให้สามารถควบคุมสิทธิ์การเข้าออกได้ตามต้องการ ความแตกต่างระหว่าง ID Card (125kHz) และ MF Card (13.56MHz) อยู่ที่ระดับความปลอดภัยและการใช้งาน โดย ID Card มีราคาย่อมเยา ใช้งานง่าย เหมาะกับสถานที่ทั่วไปที่ต้องการควบคุมการเข้าออกพื้นฐาน แต่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ขณะที่ MF card (13.56MHz) มีการเข้ารหัสซับซ้อน

ซอฟต์แวร์บันทึกเวลา แจ้งเตือนเข้า-ออก และบันทึกเวลาทำงานอย่างชาญฉลาด ด้วยซอฟต์แวร์คุณภาพจาก HIP ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการพัฒนาออกมาหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน ได้แก่ HIPTIME 4.0, Premium Time Series 8, Premium Time Series U และ Premium Time Series S โดยแต่ละรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกเวลาของ HIP ได้อย่างครบวงจร รองรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ล่าสุด HIP ได้ยกระดับการทำงานให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มฟังก์ชัน แจ้งเตือนแบบ Real-time ที่ทำงานร่วมกับ แอปพลิเคชัน HIPezTIME ทำให้ทุกการสแกนเข้า–ออกงานถูกบันทึกและส่งการแจ้งเตือนทันทีไปยังสมาร์ทโฟนของทั้งพนักงานและหัวหน้างาน ช่วยให้การจัดการเวลา การตรวจสอบความถูกต้อง และการบริหารบุคลากรมีความสะดวก โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งฝ่าย HR ฝ่ายบริหาร และพนักงานได้ครบในระบบเดียว HIP ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน HIPezTIME ให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมหลักอย่าง HIPTIME

โซลาร์รูฟ (Solar Roof) หรือการติดตั้ง โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) กำลังกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในครัวเรือนของคนไทยในปัจจุบัน สาเหตุสำคัญมาจาก ค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายครอบครัวเริ่มมองหาทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างยั่งยืน โซลาร์รูฟ แบบไหนถึงจะคุ้มค่าและเหมาะกับบ้านคุณที่สุด หากแบ่งตามการใช้งานแล้ว ระบบโซลาร์ที่นิยมติดตั้งในครัวเรือนมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ Solar Cell System On-Grid Solar Cell System Hybrid ทั้งสองระบบต่างก็มีจุดเด่นและความคุ้มค่าที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ว่าแบบไหนคือ “คำตอบที่ใช่” สำหรับบ้านของคุณ Solar Cell System On-Grid คือระบบที่เชื่อมต่อกับสายส่งการไฟฟ้าโดยตรง ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ในช่วงกลางวันจะถูกนำมาใช้ทันที และหากมีไฟเหลือก็สามารถขายคืนให้การไฟฟ้าได้ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละพื้นที่) ลงทุนเริ่มต้นต่ำกว่าระบบ Hybrid เพราะไม่ต้องซื้อแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้ไฟมากในช่วงกลางวัน เช่น ครอบครัวที่ทำงานที่บ้าน (Work from Home), ร้านค้า, หรือออฟฟิศขนาดเล็ก ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมและการเปลี่ยนใหม่ในอนาคต Solar