สาระน่ารู้

ระบบโซล่าเซลล์ On Grid กับ Off Grid ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ทั้งในบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งระบบโซลาร์ที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ ระบบโซลาร์แบบ On-Grid และ Off-Grid แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าทั้งสองระบบนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับบ้านหรือธุรกิจของเรา ระบบโซลาร์ On-Grid คืออะไร? ระบบโซล่าเซลล์ On-Grid (Grid-Tied System) หรือที่เรียกกันว่า “ระบบเชื่อมต่อกับสายส่งของการไฟฟ้า” เป็นระบบที่แผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าออกมาแล้วส่งไฟฟ้าเข้าไปในระบบบ้านหรืออาคารโดยตรง และเมื่อมีไฟฟ้าเหลือใช้ก็สามารถส่งกลับเข้าไปยังระบบของการไฟฟ้าได้ ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถขายไฟฟ้าที่เหลือใช้นี้ให้แก่การไฟฟ้าได้ตามเงื่อนไขของภาครัฐ จุดเด่นของระบบ On-Grid ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแผงโซลาร์ผลิตไฟไม่พอใช้ ระบบจะดึงไฟจากการไฟฟ้ามาใช้ต่อเนื่องได้ทันที ไม่มีความยุ่งยากในการดูแลรักษา เนื่องจากไม่มีแบตเตอรี่ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งต่ำกว่าระบบ Off-Grid ข้อจำกัดของระบบ On-Grid ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เมื่อเกิดไฟดับ เพราะระบบจะหยุดทำงานเพื่อความปลอดภัยของช่างไฟที่ซ่อมสายไฟ ไม่สามารถกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่ไม่มีแสงแดดได้ ระบบโซลาร์ Off-Grid คืออะไร? ระบบโซลาร์แบบ Off-Grid (Standalone System)

เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานในโรงแรม ด้วย Energy Saver Unit Energy Saver Unit จัดการสิทธิ์แม่บ้านอย่างมืออาชีพ การประหยัดพลังงานกลายเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับความสะดวกสบายของผู้เข้าพัก ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้คือระบบ ระบบประหยัดไฟในห้องพักโรงแรมอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะที่ใช้ร่วมกับคีย์การ์ด เพื่อควบคุมการใช้พลังงานภายในห้องพักให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะการกำหนดสิทธิ์การใช้งานของบัตรต่างๆ ทั้งบัตรแขก บัตรพนักงาน และบัตรแม่บ้าน ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ESU ระบบประหยัดไฟในห้องพักโรงแรมอัตโนมัติ ควบคุมเฉพาะสิทธิ์ของบัตรแม่บ้าน หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ ESU จาก HIP คือความสามารถในการกำหนดสิทธิ์ของแต่ละประเภทบัตรที่ใช้ควบคุมระบบไฟภายในห้องพัก เช่น ในกรณีของแม่บ้าน เมื่อเสียบบัตรพนักงานหรือบัตรแม่บ้านเข้าสู่ ESU ระบบจะทำการจ่ายไฟเฉพาะสำหรับไฟส่องสว่างภายในห้องเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ทีวี ปลั๊กไฟ หรือเครื่องทำน้ำอุ่น จะไม่สามารถใช้งานได้ เหตุผลที่ควบคุมการใช้งานเฉพาะไฟส่องสว่าง ลดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น หากแม่บ้านสามารถเปิดอุปกรณ์ทั้งหมดได้ อาจเกิดกรณีลืมปิดเครื่องปรับอากาศหรือทีวี ซึ่งส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เข้าพัก ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า การจำกัดสิทธิ์ให้เปิดเฉพาะไฟส่องสว่าง ช่วยป้องกันการใช้งานเกินความจำเป็นของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดการสึกหรอและเพิ่มอายุการใช้งาน เพิ่มความปลอดภัย การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่มีผู้ควบคุมสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยง

ระบบ Access Control ที่ปลอดภัย มั่นใจ ควบคุมได้ทุกพื้นที่ หากคุณกำลังมองหาระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) ที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่าย และเหมาะกับทุกประเภทองค์กร HIP คือคำตอบที่คุณไว้วางใจได้ HIP เป็นแบรนด์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยเฉพาะระบบ Access Control ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้ง สำนักงาน อาคารชุด โรงงาน สถานศึกษา และหน่วยงานราชการ ✅ บันทึกข้อมูลได้อย่างละเอียด ระบบสามารถเก็บ Log การเข้า–ออกของผู้ใช้งานแต่ละรายแบบวัน–เวลา ช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารองค์กร ✅ รองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งแบบ Standalone (ไม่ต้องเชื่อมคอมพิวเตอร์) หรือแบบ Online ที่สามารถควบคุมผ่านระบบเครือข่าย ✅ อุปกรณ์คุณภาพสูง ครอบคลุมครบเซต HIP มีทั้ง เครื่องสแกน (เช่น CMG606F), กลอนไฟฟ้าแม่เหล็ก (Magnetic Lock), ปุ่ม

ทำไมต้องใช้ HIP Smart Cashless Parking ระบบที่จอดรถแบบเดิมมักมีปัญหาหลายอย่าง เช่น ความล่าช้าในการรับบัตร, คิวจ่ายเงินที่ยาวเหยียด และความเสี่ยงจากการสัมผัสบัตรหรือปุ่มกด ระบบ HIP Smart Cashless Parking เป็นทางออกที่ช่วยลดปัญหาเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยี QR Code และ RFID ที่ช่วยให้การเข้า-ออกลานจอดรถเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ที่จอดรถได้โดยไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์ใดๆ และสามารถชำระเงินผ่านมือถือได้ทันที ลดการใช้เงินสดและเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม 5 เหตุผลที่ควรใช้ HIP Smart Cashless Parking เข้า-ออกง่าย ไม่ต้องสัมผัส ลดความยุ่งยากและลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค รองรับระบบชำระเงินออนไลน์ ใช้งานได้กับทุกธนาคาร รองรับ Mobile Banking และ e-Wallet ปลอดภัยสูงสุด ใช้ QR Code และ บัตร RFID

HIPezLPR โปรแกรมฟรีอัจฉริยะยกระดับระบบ LPR เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง HIPezLPR โปรแกรมฟรีอัจฉริยะยกระดับระบบ LPR เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงในการควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ HIPezLPR คือโปรแกรมพลิเคชันฟรีที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการอ่านป้ายทะเบียนรถร่วมกับ กล้องอ่านป้ายทะเบียน (LPR Camera) โดยใช้ AI และการประมวลผลภาพขั้นสูง ทำให้การตรวจจับและบันทึกข้อมูลแม่นยำยิ่งขึ้นช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่จอดรถอย่างสมบูรณ์แบบ การจดจำป้ายทะเบียนที่แม่นยำ HIPezLPR ผสานเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลภาพขั้นสูง ทำให้สามารถอ่านป้ายทะเบียนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แม้ในสภาพแสงน้อยหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คุณจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้องทุกครั้ง รองรับการใช้งานกับกล้อง LPR หลายรุ่น โปรแกรม HIPezLPR รองรับการทำงานร่วมกับ กล้องอ่านป้ายทะเบียนรถ (HIP LPR Camera) เช่น กล้อง lpr CMH87, กล้อง lpr CMH88 และ กล้อง lpr CMH88 PRO ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานอย่างไร้รอยต่อ เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่ เช่น หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม

ระบบ LPR (License Plate Recognition) เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนด้วยระบบ LPR ระบบ LPR (License Plate Recognition) หรือระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ กลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการจัดการการเข้า-ออกของยานพาหนะ ระบบนี้ใช้กล้องและซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพเพื่ออ่านและบันทึกหมายเลขทะเบียนรถโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดของมนุษย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมพื้นที่จอดรถและการรักษาความปลอดภัย คุณสมบัติเด่นของระบบ LPR จาก HIP การจดจำป้ายทะเบียนที่แม่นยำ ระบบ LPR ของ HIP ใช้ AI และเทคโนโลยีประมวลผลภาพขั้นสูง ทำให้สามารถอ่านป้ายทะเบียนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แม้ในสภาพแสงน้อย รองรับหลายประเภทของป้ายทะเบียน สามารถอ่านป้ายทะเบียนได้ทั้ง รถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก และยานพาหนะอื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายสถานการณ์ เช่น หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และสนามบิน การเชื่อมต่อกับระบบควบคุมการเข้า-ออก ระบบ LPR สามารถทำงานร่วมกับ ไม้กั้นอัตโนมัติ (Barrier Gate), Access Control

ตัวช่วยเพื่อความปลอดภัยสำหรับประตูทุกประเภท กลอนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Lock) ขนาด 600 ปอนด์ เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการควบคุมการเข้า-ออกของประตู ด้วยความแข็งแรงและความสะดวกในการใช้งาน เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับระบบ Access Control ต่าง ๆ เช่น ระบบสแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า หรือการทาบบัตร โดยในบทความนี้ เราจะมาแนะนำประเภทของ Magnetic Lock และการเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับประตูแต่ละประเภท Magnetic Lock 600Lbs – เทคโนโลยีล็อกประตูที่มั่นคง ในยุคที่ความปลอดภัยมีความสำคัญสูงสุด Magnetic Lock 600Lbs เป็นโซลูชันที่ช่วยให้การควบคุมประตูมีประสิทธิภาพและง่ายดาย เหมาะกับการใช้งานในบ้าน อาคารสำนักงาน และสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ทำไมต้องเลือก Magnetic Lock Magnetic Lock มีคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ทนทานต่อการงัดแงะ รองรับระบบ Access Control ต่าง ๆ มีตัวเลือกแบบกันน้ำสำหรับใช้งานภายนอก ประเภทของ Magnetic Lock

ความแตกต่างระหว่าง Proximity Card 125kHz และ Mifare Card 13.56MHz และการใช้งานที่เหมาะสม ระบบการ์ดสำหรับการควบคุมการเข้าถึงและการจัดเก็บข้อมูลได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายขององค์กร บ้านพักอาศัย และธุรกิจต่างๆ โดยในบทความนี้เราจะพูดถึงความแตกต่างระหว่าง Proximity Card 125kHz และ Mifare Card 13.56MHz พร้อมคำแนะนำการใช้งานให้เหมาะสม บัตรพร็อกซิมิตี้ (Proximity Card) เทคโนโลยีการจัดการความปลอดภัยที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่า Proximity ระบบการควบคุมการเข้า-ออกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นในองค์กร บ้านพักอาศัย หรือธุรกิจต่างๆ บัตรพร็อกซิมิตี้ (Proximity Card) หรือบัตรคลื่นความถี่ 125 KHz ได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายรูปแบบการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่ายและราคาที่คุ้มค่า การใช้งาน Proximity Card ด้วยความหลากหลายและความคุ้มค่าของบัตรพร็อกซิมิตี้ ทำให้บัตรชนิดนี้ได้รับความนิยมในงานระบบต่างๆ ได้แก่ ระบบงานห้องพัก ใช้ควบคุมการเข้า-ออกของห้องพักในโรงแรมหรืออพาร์ตเมนต์ ระบบงานเข้า-ออกอาคาร เหมาะสำหรับอาคารสำนักงานหรือพื้นที่ที่ต้องการการจัดการการเข้าถึง บัตรพนักงาน ใช้สำหรับระบุสิทธิ์และการเข้าถึงในองค์กร บัตรลานจอดรถ ใช้จัดการระบบเข้า-ออกของยานพาหนะ บัตรสมาชิก

ความเหมาะสมในการเลือกใช้เครื่องสแกนนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าแบบต่าง ๆ ที่เหมาะกับองค์กรและสถานที่ต่าง ๆ เครื่องสแกนคืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเวลา การควบคุมการเข้า-ออก และเสริมความปลอดภัยให้สถานที่ของคุณ แต่...จะเลือกเครื่องสแกนแบบไหนดีให้เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด? วันนี้เรามีคำตอบ! ออฟฟิศขนาดเล็ก พนักงานจำนวนไม่มาก (10-30 คน) ต้องการระบบบันทึกเวลาทำงานที่แม่นยำและใช้งานง่าย เครื่องขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ เราขอแนะนำเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า CMiF82 HIP เครื่องสแกนลายนิ้วมือ รุ่น CMiF82 สแกนลายนิ้วมือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้โปรแกรม รองรับฟังก์ชัน Easy Express ดาวน์โหลดไฟล์สรุปบันทึกเวลาทำงานเป็นไฟล์ Excel ผ่าน USB Drive เหมาะสำหรับใช้ลงเวลาทำงานพนักงานขององค์กรขนาดเล็ก และสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการระบบควบคุมประตูเข้า-ออก ด้วยการสแกนลายนิ้วมือได้อย่างสะดวกสบาย รองรับผู้ใช้ได้ถึง 500 คน เก็บข้อมูลได้มากถึง 160,000 เหตุการณ์ ใช้งานง่าย ประหยัดพื้นที่ ดาวน์โหลดรายงานเป็นไฟล์ Excel ผ่าน USB Flash Drive

HIP ไม้กั้นรถยนต์ (barrier gate) ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม้กั้นรถยนต์การใช้งานที่ต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ล้านครั้ง การันตีความทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทาง HIP ได้มีการทดสอบทดสอบไม้กั้นรถยนต์ภายใต้สภาพแวดล้อมหลากหลายและได้มีการจำลองสถานการณ์การเปิด-ปิดไม้กั้นแบบต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้ต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน HIP ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ ไม้กั้นรถยนต์ (barrier carpark) CMW101X Series ตัวใหม่เพิ่มตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการการใช้งาน-เข้าออกตลอดทั้งวันโดยรุ่น CMW101X Series นี้มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและฟีเจอร์และข้อดีที่โดดเด่นด้วยตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ DC ไร้แปรงถ่าน (Brushless DC Motor) ซึ่งช่วยลดการสึกหรอ พร้อมรับมือกับการใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ล้านครั้ง! ปรับความเร็วในการเปิด-ปิดได้ตั้งแต่ 1-6 วินาที รองรับการจราจรที่หนาแน่น ระบบมอเตอร์ DC 24V ให้การทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ไม่มีสะดุด สว่างไสวมาพร้อมไฟ LED ช่วยเพิ่มการมองเห็นทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจนรองรับการติดตั้ง เซ็นเซอร์อินฟราเรด และ ลูปตรวจจับยานพาหนะ