สาระน่ารู้

ซอฟต์แวร์บันทึกเวลา แจ้งเตือนเข้า-ออก และบันทึกเวลาทำงานอย่างชาญฉลาด ด้วยซอฟต์แวร์คุณภาพจาก HIP ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการพัฒนาออกมาหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน ได้แก่ HIPTIME 4.0, Premium Time Series 8, Premium Time Series U และ Premium Time Series S โดยแต่ละรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกเวลาของ HIP ได้อย่างครบวงจร รองรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ล่าสุด HIP ได้ยกระดับการทำงานให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มฟังก์ชัน แจ้งเตือนแบบ Real-time ที่ทำงานร่วมกับ แอปพลิเคชัน HIPezTIME ทำให้ทุกการสแกนเข้า–ออกงานถูกบันทึกและส่งการแจ้งเตือนทันทีไปยังสมาร์ทโฟนของทั้งพนักงานและหัวหน้างาน ช่วยให้การจัดการเวลา การตรวจสอบความถูกต้อง และการบริหารบุคลากรมีความสะดวก โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งฝ่าย HR ฝ่ายบริหาร และพนักงานได้ครบในระบบเดียว HIP ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน HIPezTIME ให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมหลักอย่าง HIPTIME

โซลาร์รูฟ (Solar Roof) หรือการติดตั้ง โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) กำลังกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในครัวเรือนของคนไทยในปัจจุบัน สาเหตุสำคัญมาจาก ค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายครอบครัวเริ่มมองหาทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างยั่งยืน โซลาร์รูฟ แบบไหนถึงจะคุ้มค่าและเหมาะกับบ้านคุณที่สุด หากแบ่งตามการใช้งานแล้ว ระบบโซลาร์ที่นิยมติดตั้งในครัวเรือนมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ Solar Cell System On-Grid Solar Cell System Hybrid ทั้งสองระบบต่างก็มีจุดเด่นและความคุ้มค่าที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ว่าแบบไหนคือ “คำตอบที่ใช่” สำหรับบ้านของคุณ Solar Cell System On-Grid คือระบบที่เชื่อมต่อกับสายส่งการไฟฟ้าโดยตรง ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ในช่วงกลางวันจะถูกนำมาใช้ทันที และหากมีไฟเหลือก็สามารถขายคืนให้การไฟฟ้าได้ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละพื้นที่) ลงทุนเริ่มต้นต่ำกว่าระบบ Hybrid เพราะไม่ต้องซื้อแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้ไฟมากในช่วงกลางวัน เช่น ครอบครัวที่ทำงานที่บ้าน (Work from Home), ร้านค้า, หรือออฟฟิศขนาดเล็ก ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมและการเปลี่ยนใหม่ในอนาคต Solar

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ CMi511C ที่ตอบโจทย์ทั้งด้าน ความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความสะดวกในการบริหารจัดการ เป็นตัวช่วยสำคัญที่หลายองค์กรให้ความไว้วางใจ ด้วยความสามารถในการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก ตรวจสอบได้ภายในเสี้ยววินาที และมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้ CMi511C กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ CMi511C ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ HIP SyncTime Cloud เพื่อบริหารจัดการข้อมูลการเข้า-ออกและเวลาทำงานผ่านคลาวด์ฟรี ช่วยให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบและจัดการข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมฟังก์ชันเสริมอย่างการลงเวลาออนไลน์ การขอลางาน หรือการยืนยันตัวตนผ่านสมาร์ตโฟน จึงเหมาะสำหรับองค์กรยุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่น ลดภาระงานเอกสาร และยกระดับการบริหารจัดการบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อ เครื่องสแกนนิ้ว CMi511C เข้ากับระบบ HIP SyncTime Cloud ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้การใช้งานตอบโจทย์ยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะสามารถใช้งานได้ ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน แล้ว ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและจัดการข้อมูลการเข้า-ออกได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านทั้ง Web Portal และ Mobile Application ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสูงสุด จุดเด่นของการใช้งานร่วมกับ CMi511C คือองค์กรจะได้รับทั้ง

ติดตั้ง ระบบ LPR (License Plate Recognition) หรือ ระบบอ่านป้ายทะเบียน LPR ที่สามารถตรวจจับและบันทึกข้อมูลทะเบียนรถได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่ง HIP ผู้นำด้านโซลูชันความปลอดภัย ได้นำเทคโนโลยี LPR มาพัฒนาเป็นโซลูชันครบวงจรสำหรับการจัดการที่จอดรถและระบบควบคุมการเข้า-ออก ที่ตอบโจทย์ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และหน่วยงานต่างๆ เครดิตภาพ: บริษัท ซีเมเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญ ติดตั้ง ระบบ LPR และโซลูชันเทคโนโลยีครบวงจร กล้องอ่านป้ายทะเบียนรถ LPR ของ HIP ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับและอ่านป้ายทะเบียนรถได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาพแสงน้อยหรือกลางคืน ด้วยเทคโนโลยีประมวลผลภาพขั้นสูง พร้อมซอฟต์แวร์ที่สามารถจดจำตัวอักษรและตัวเลขบนป้ายทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ช่วยให้การตรวจสอบและบันทึกข้อมูลรถเข้า-ออกเป็นไปอย่างอัตโนมัติ เครดิตภาพ: บริษัท ซีเมเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญระบบ LPR และโซลูชันเทคโนโลยีครบวงจร

HS-DLB3 Smart Door Lock กลอนประตูอัจฉริยะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด บ้านเดี่ยว หรือแม้แต่สำนักงานขนาดเล็ก ก็สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่า HS-DLB3 Smart Door Lock ไม่ใช่แค่ “กลอนประตู” ทั่วไป แต่เป็น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย รองรับระบบล็อก-ปลดล็อกแบบอัตโนมัติและหลากหลายทางเลือก เพิ่มความอุ่นใจให้เจ้าของบ้านทุกครั้งที่ก้าวออกจากประตู พร้อมระบบแจ้งเตือน และการจัดการผ่านแอปฯ ในมือถือ กลอนประตูอัจฉริยะ HS-DLB3 การควบคุมแบบไร้ขีดจำกัดผ่านแอป HIP IOT ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม ตรวจสอบสถานะการล็อก/ปลดล็อกประตูแบบเรียลไทม์ ปลดล็อกให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวได้ทันทีแม้คุณไม่อยู่บ้าน เช็คประวัติการเข้าออกย้อนหลัง เพื่อความอุ่นใจ ตั้งรหัสชั่วคราวสำหรับแขกหรือผู้มาติดต่อ รับการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น มีคนพยายามงัดแงะ ช่วยให้การดูแลบ้านของคุณไม่จำเป็นต้องอยู่แค่หน้าประตูอีกต่อไป การควบคุม Smart Lock จากระยะไกลจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของบ้านที่มีไลฟ์สไตล์ยุ่งเหยิง หรือผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่ว่าจะเดินทางต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็สามารถ เปิดประตูให้แม่บ้านหรือช่างเข้ามาทำงานได้อย่างปลอดภัย ผ่านมือถือของคุณเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ควบคุมประตู ผ่านจอและแอป IOT Duo สุดล้ำจาก HIP ที่รวมเอา ระบบอินเตอร์คอมอัจฉริยะ เข้ากับการ ควบคุมประตู และ ระบบกล้องไว้ในชุดเดียว เปลี่ยนประสบการณ์การต้อนรับผู้มาเยือนของคุณให้ ล้ำสมัย ปลอดภัย และใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ด้วย HS-IC64-M กล้องกริ่งหน้าประตู (Video Door Phone) ที่รองรับการกดเรียก พร้อมแสดงภาพและเสียง พูดคุยโต้ตอบหากันได้แบบ Real-Time ไปยังจอ Monitor ตัวกล้องมาพร้อมกับความละเอียด 2MP (1080P HD) ครอบคลุมการใช้งานด้วย ฟังก์ชัน Digital WDR สำหรับการจัดการแสงย้อนในภาพ ทำให้มองเห็นชัดแม้ยืนในที่แดดจ้า และระบบบีบอัดวิดีโอ H.265 ที่ให้ภาพลื่นไหล ชัดเจน แต่ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย ด้วยดีไซน์ที่ กะทัดรัดและทันสมัย ตัวเครื่องสามารถติดตั้งได้แบบ Surface Mounting ซึ่งเข้ากับทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในอาคาร อีกทั้งยังผลิตจากวัสดุที่ทนทาน ผ่านมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น ระดับ IP65

ระบบเปลี่ยนแบตรถ EV เจ้าแรกในอาเซียน ไม่ต้องชาร์จ สถานีสลับแบตเตอรี่ อัจฉริยะแห่งแรกในประเทศไทย (Thailand's first battery swap station) ในนามของ U Power ร่วมกับ UNEX EV และ SUSCO ด้วยระบบควบคุมสถานีเทคโนโลยี AI เพื่อให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่มีความชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับยุคแห่งการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับและระบบอัตโนมัติในอนาคต โดยเริ่มต้นเปิดให้ บริการแห่งแรกที่จังหวัดภูเก็ตก่อน และในอนาคตคาดว่าจะขยายสถานีไปยังกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป เพื่อรองรับจำนวนการใช้งานยานพาหนะพลังงานใหม่ที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และไม่จำกัดการรองรับที่รถยนต์ หรือรถขนาดเล็กถึงกลางเท่านั้น จากการที่ U Power เคยเปิดเผยว่าในอนาคตมีแผนขยายแพลตฟอร์มให้รองรับ รถขนาดใหญ่ แต่ต้องอาศัยการปรับปรุงโครงสร้างสถานีและขนาดของแบตเตอรี่ที่ใช้ เพื่อให้การเข้ารับบริการในสถานีสลับแบตเตอรี่เป็นไปอย่างราบรื่น และตอบโจทย์การใช้งานของรถที่ลงทะเบียนไว้ ทาง HIP Global จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ระบบไม้กั้น มีหน้าที่ในการ อ่านป้ายทะเบียน ด้วยการติดตั้ง ไม้กั้นรถยนต์ CMW8133 Barrier มาพร้อมระบบ เปิด-ปิดแบบไร้การ์ด

CMG298 เครื่องทาบบัตร อุปกรณ์ควบควบประตู ราคาประหยัด ควบคุมการเข้า-ออกของประตู (Access Control) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัดปัญหาเรื่องการพกกุญแจไปได้เลย (Keyless) ด้วยการออกแบบให้เป็นเครื่องอ่านบัตรแบบ Standalone ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา และรองรับการใช้งานได้ทั้ง บัตร EM / MF และ รหัสผ่าน (Password) เพิ่มความสะดวกและยืดหยุ่นในการใช้งาน ตัวเครื่องก็ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่อุณหภูมิ -20°C ถึง 70°C แถมกันน้ำในระดับ IP66 ไม่ว่าจะเป็น Indoor และ Outdoor ก็หมดห่วงเรื่องเครื่องมีปัญหา ระบบทำงานผิดปกติ และวงจรเสื่อมเร็ว โดยในประเทศที่สภาพอากาศแปรปรวนทั้งร้อนและฝนอย่างประเทศไทย แม้จะเป็นเครื่องขนาดกะทัดรัดและใช้งานแบบ Standalone สามารถจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งานได้มากถึง 1,000 รายชื่อ รองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดกลางถึงใหญ่ได้อย่างไม่มีปัญหา เครดิตภาพ: หจก.เอเจเค ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร พร้อมทีมงานติดตั้งมืออาชีพมากกว่า 10 ปี ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายแล้ว

จัดการข้อมูลพนักงานและควบคุมประตูผ่านระบบออนไลน์แบบ Easy เครื่องสแกนใบหน้า CMiF54C ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดการข้อมูลพนักงานในองค์กรยุคใหม่ โดยเฉพาะการลงเวลาเข้า-ออกงาน และการควบคุมการเข้าออกพื้นที่ต่าง ๆ ภายในอาคาร ทำให้เครื่องรุ่นนี้เหนือกว่าเครื่องสแกนทั่วไปคือความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบ HIP SyncTime Cloud ซึ่งเป็น ระบบคลาวด์ออนไลน์จาก HIP ใช้งานฟรี ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ และข้อมูลพนักงานได้จากทุกที่ทุกเวลา การเชื่อมต่อกับระบบ HIP SyncTime Cloud ทำให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ หรือใช้ระบบ LAN ภายในองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรงได้ทันที ข้อมูลทั้งหมดจะถูกซิงก์ขึ้นคลาวด์อัตโนมัติ ปลอดภัย และสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้สะดวกผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เหมาะกับบริษัทที่มีหลายสาขา หรือมีพนักงานที่ต้องเข้าออกจากหลากหลายจุดภายในองค์กรด้วยเทคโนโลยี AI สามารถจดจำใบหน้าที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมรองรับการใช้งานทั้งในพื้นที่แสงน้อยหรือแสงจ้า Face AI CMiF54C กลายเป็นทางเลือกที่ทันสมัยสำหรับการจัดการระบบเข้า-ออกงานในองค์กรยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว Web Portal สำหรับผู้ดูแล ในจัดการข้อมูลพนักงาน จุดเด่นสำคัญของระบบนี้คือ Web Portal ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล (HR) และผู้ดูแลระบบ (Admin) โดยไม่ต้องมีความรู้เฉพาะทางด้านไอทีมากนัก

เครื่องอ่านบัตรระยะไกล ที่สามารถอ่านบัตรได้ไกลถึง 25 เมตร คุณไม่จำเป็นต้องลดกระจก ไม่ต้องแตะบัตร หรือเปิดประตูเลยแม้แต่น้อย! เพียงแค่ ขับรถเข้าใกล้ ตัวเครื่อง ระบบจะทำการอ่านข้อมูลจาก เครื่องอ่านบัตรระยะไกล CMLQ863 โดยอัตโนมัติ และส่งคำสั่งไปยังไม้กั้นให้เปิดออกทันที ทำไมต้องเลือก CMLQ890 + CMLQ863 ระบบ RFID ระยะไกลขั้นสูง เครื่องอ่านบัตรระยะไกล CMLQ890 ใช้เทคโนโลยี UHF RFID (Ultra High Frequency) ซึ่งมีความแม่นยำสูง และสามารถอ่านข้อมูลจากบัตรได้ในระยะไกลโดยไม่ต้องสัมผัสหรืออยู่ใกล้ตัวเครื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกแม้จะติดตั้งในจุดที่ไม่สามารถเข้าถึงตัวเครื่องได้ง่าย บัตรผ่านระยะไกล CMLQ863 การอ่านบัตรระยะไกลโดยเฉพาะ บัตรผ่านระยะไกล CMLQ863 เป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบอ่านบัตรระยะไกลโดยเฉพาะ มาพร้อมรหัสเฉพาะตัว ป้องกันการก็อปปี้ และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแม้จะใช้งานกลางแดดหรือฝน เหมาะสำหรับการติดไว้ที่รถยนต์อย่างถาวร เช่น ติดที่กระจกหน้ารถ ปรับค่าอ่านได้ตามพื้นที่ใช้งาน เครื่องอ่านบัตรระยะไกล CMLQ890 สามารถปรับค่าระยะอ่านได้ ตั้งแต่ระยะใกล้จนถึง 25